มะตูมยักษ์ หรือ”มะตูมอินเดีย”ผลใหญ่ ไม่มีเสี้ยนและไม่มียาง

“มะตูมยักษ์” หรือ “มะตูมอินเดีย” ผลใหญ่ ไม่มีเสี้ยน ไม่มียาง รดชาติหวาน กลิ่นหอมน่ารับประทาน กิ่งพันธุ์นำเข้ามาจากอินเดีย ใครเห็นต้องร้องอื้อฮือเพราะใหญ่ย๋ายใหญ่

มะตูมยักษ์ อินเดีย มะตูมผลใหญ่จัมโบ้

ผลมะตูมในบ้านเรานั้น ที่ผมเคยเห็นมาก็มี ลูกมะตูมธรรมดา ไม่ใหญ่มากมีทั้งชนิดเปลือกแข็งและมะตูมนิ่มที่มีเปลือกนิ่ม รวมไปถึงมะตูมยักษ์ ซึ่งก็ใหญ่กว่ามะตูมทั่วไปขึ้นมาอีกนิดหน่อย หรือถ้าจะเรียกให้ดูดี ก็ต้องเรียกว่า “มะตูมยักษ์จัมโบ้” เพราะว่าเคยมี มะขามป้อมยักษ์จัมโบ้ มาแล้ว แต่ส่วนมะตูมอินเดียนี่ซิครับ เรียกไม่ถูกเลยครับ ใครพอที่จะมีไอเดียกันบ้างครับ สำหรับการตั้งชื่อ มะตูมอินเดีย แต่ผมขอเรียกว่า “มะตูมยักษ์ อินเดีย” ก็แล้วกันนะครับ แต่ขอบอกเสริมนิดหนึ่งนะครับ มะตูมยักษ์อินเดียคนละสายพันธุ์กับมะตูมแขกหรือมะตูมซาอุนะครับ

ประวัติที่มาของมะตูมยักษ์อินเดีย

ต้นมะตูมยักษ์อินเดีย มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีผู้ที่ไปแสวงบุญไปไหว้สักการะปูชนียสถานของพระพุทธเจ้าประเทศอินเดีย และได้ไปพบเห็นผลมะตูมที่มีลักษณะผลใหญ่ ณ.เมืองนาลันทา เมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านมา ได้นำผลสุกของมะตูมอินเดียกลับมาเมืองไทยและได้ปลูกไว้จนมีผลใหญ่ออกมาดังรูปที่เห็น

ลักษณะของมะตูมยักษ์อินเดีย

มะตูมยักษ์อินเดีย เป็นไม้ผลมีลำต้นสูงใหญ่ประมาณ 10-15 เมตร ขึ้นได้ทุกสภาพดินและทุกสภาพอากาศ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ร้อนชื้น ไม่ชอบดินชื้นเปียกเเฉะเกินไป

ต้นมะตูม อินเดีย ชื่อ ภาษาอังกฤษ Beal India Tree หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ Aegle marmelos คนไทยเรียกมะตูมอินเดีย ซึ่งมีลักษณะดังนี้

• ลำต้นมะตูมอินเดีย ลักษณะต้นของมะตูมอินเดียมีหนามเหมือนกับตูมไทย แต่จะมีหนามน้อยกว่ามะตูมไทยเล็กน้อย
• ลักษณะใบก็มีรูปลักษณ์เช่นเดียวกับมะตูมไทย แต่ใบจะหนากว่าเล็กน้อย
• ลักษณะผลมะตูมอินเดีย ลักษณะของลูกมะตูมจะใหญ่กว่ามะตูมไทยมาก ลูกมะตูมไทยผลใหญ่เพียงแค่ผลส้มเช้งเท่านั้น
• เนื้อมะตูมยักษ์อินเดีย เนื้อมะตูมสีเหลือง เนื้อละเอียด สีเนื้อมะตูมสีทองและไม่มีเสี้ยนเหมือนลูกมะตูมไทย
• เปลือกมะตูมบาง เปลือกไม่แข็ง เปลือกนิ่มไม่แข็งกระด้างดังเช่นผลมะตูมไทย ผลอ่อนของเปลือกมะตูมสีเขียว ผลแก่หรือผลสุก มีผลสีเหลืองไข่ไก่ เปลือกผิวมัน

สีเนื้อของมะตูมยักษ์อินเดีย

5 ลักษณะเด่นของ มะตูมยักษ์ อินเดีย

1. – ผลใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 1 กิโล/ผล ถ้าผลสมบูรณ์มากๆจะใหญ่มาก
2. – ไม่มียาง มะตูมพันธุ์นี้ ไม่ยางเหนียวเหนอะหนะเหมือมะตูมไทยครับ
3. – ผลอ่อน ฝาดตากแห้งใช้ทำน้ำมะตูม ช่วยระบาย กลิ่นหอม กินชุ่มคอ
4. – ผลสุก เปลือกไม่แข็งมากใช้มีดผ่าผลออกมาเป็น 2 ซีก จะเห็น เนื้อภายใน สีเหลืองอร่าม
5. – ผลสุกมะตูม นำไปแช่ตู้เย็น หลังจากนั้น เอาช้อนตักชิมดู ท่านจะรู้สึกว่าได้ทาน ไอสครีมมะตูมเลย เพราะรสชาติสุดยอดจริงๆ

5 สรรพคุณทางยาของมะตูมอินเดีย

มะตูม อินเดีย สรรพคุณทางยาเหมือนหรือคล้ายมะตูมไทย เช่น

1. ใบมะตูม ใช้รักษาโรคไข้หวัด โดยการนำใบมะตูมมาคั้นน้ำดื่ม
2. ผลดิบและใบมะตูม ในตำรับยาอายุรเวชใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย ท้องร่วง แก้โรคบิด เนื่องจากในมะตูมมีสารเลกติน (Lectins)
3. รักษาโรคหลอดลมอักเสบ เช่น เจ็บคอ เป็นหวัดเนืองจากอากาศเปลี่ยนแปลงหรือสูบบุหรี่ดื่มแอลกอฮอร์ ใช้ใบหรือผลต้มน้ำรับประทาน
4. รักษาโรคเพาะอาหาร เป็นแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบ ใช้ผลหรือใบรักษาได้ เพราะมะตูมสารออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยสมานแผลได้ดี
5. มะตูมช่วยลดน้ำตาลในเลือด โรคเบาหวานได้ดี จากงานวิจัยพบว่าถ้ารับประทานผลหรือใบมะตูมเป็นประจำ วันละ 2 แก้ว โดยการนำมาต้มรับประทานดื่ม พบว่าน้ำมะตูมที่ดื่มเข้าไป ทำให้อินซูลินในร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงว่า มะตูมช่วยลดเบาหวานได้จริง
6. ช่วยบำรุงธาตุไฟ
7. ขับเสมหะ
8. ช่วยให้ย่อยอาหารได้ดี

มะตูมอินเดีย

สรรพคุณมะตูมอินเดีย ที่จริงยังมีอีกเยอะครับ สำหรับสรรพคุณและประโยชน์ของเขา ถ้าสนใจเกี่ยวกับสรรพคุณ ก็ไปที่เวปสมุนไพรนี้ไ้ด้เลย http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_10_5.htm 

5 ประโยชน์ของมะตูมอินเดีย

มะตูมอินเดียไม่ได้มีแค่สรรพคุณทางยาเท่านั้น แต่ต้นมะตูมอินเดียยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่นกัน

• ผลมะตูมอ่อน ขวานตากแห้งสำหรับต้มกินเป็นชามะตูม
• ผลแก่หรือผลสุก ใช้สากทุบผลให้แตกพอประมาณ ต้มน้ำตาลรับประทานหอมหวานชื่นคอ ชื่นใจ
• แปรรูปเป็นน้ำมะตูม แช่ตู้เย็น แก้กระหายน้ำได้ดี
• ใบมะตูม ใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับ ลาภ ส้มตำ น้ำตกหรือจะรับประทานกับขนมจีนน้ำยาหรือน้ำพริกก็สุดยอดครับ
• ผลสุกแช่ช่องฟิต และใช้ช้อนตักกว้านรับประทาน รสชาติเหมือนไอศครีมมะตูม ถ้าไม่เชื่อต้องรอทำซิครับ

การปลูกมะตูมอินเดีย ให้ออกผลไวได้กินลูกเร็ว

เทคนิคการปลูกมะตูมยักษ์อินเดียเพื่อให้ได้ผลไว บางคนบอกว่า”ปลูกมะตูมมา 10 ปีผ่านไปแล้ว มะตูมยังไม่ออกผลเลย ผมมีเทคนิคจะแนะนำให้ท่านได้ลองไปใช้ดูครับ ไม่เกิน 3 ปี ออกผลให้คุณได้รับประทานมะตูมแน่นอนครับ โดยมีวิธีดังนี้

6 วิธีปลูกมะตูมยักษ์อินเดีย

1. เลือกต้นมะตูม การเลือกต้นมะตูมปลูก ควรใช้กิ่งเสียบยอด เพราะจะมีรากแก้ว ไม่ควรใช้กิ่งตอน
2. การขุดหลุมมะตูม ควรลึกประมาณ 30-50 ซม. กว้างประมาณ  60 เซ็นติเมตร
3. ใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นก้นหลุมมะตูม และใส่ปุ๋ยรองพื้นด้วยก็ดี(ถ้ามี) สูตร 15-15-15
4. การให้น้ำ ต้นมะตูมปลูกระยะแรก ควรรดน้ำทุกวัน การให้น้ำ ควรให้วันละ 1 ครั้ง พอประมาณ
5. ใส่น้ำยาเร่งรากผสมยาไล่แมลง เพื่อให้รากแข็งแรงหากินปุ๋ยทางดินได้ไว จะทำให้ต้นมะตูมรัดเร็ว โตเร็ว ออกผลเร็ว
6. ใส่สารฟื้นฟูดิน เพื่อปรับปรุงดินให้ดินร่วน ซุย และอุ้มน้ำได้ดี รากพืชแทงดินและกินธาตุอาหารได้ดี

4 วิธีการขยายกิ่งพันธุ์มะตูมยักษ์อินเดีย

วิธีขยายกิ่งพันธุ์มะตูมอินเดีย ทำได้ง่ายๆ ดังนี้

1. ขยายกิ่งพันธุ์มะตูม โดยการเพาะจากเมล็ดมะตูม
2. การขยายต้นพันธุ์มะตูมโดยการทาบกิ่งมะตูม
3. การขยายกิ่งพันธุ์มะตูม โดยการเสียบยอดมะตูม
4. การขยากิ่งพันธุ์มะตูม โดยการติดตา

ขายกิ่งพันธุ์ มะตูมยักษ์อินเดีย พร้อมจัดส่ง

ต้องการปลูกมะตูมยักษ์อินเดีย ออกผลไวได้กินลูกเร็ว สอบถามมาที่สวนThaiG ได้นะครับ เราขายกิ่งพันธุ์ไม้ผลราคาถูก มีต้นพันธุ์มะตูมยักษ์อินเดียจำหน่าย ถ้าไม่มีสะดวกมาด้วยตัวเอง จะให้ทางสวนผลไม้ของเราจัดส่งให้ท่านก็ได้นะครับ ที่สวนเรามีพันธุ์มะตูมหลายสายพันธุ์ เช่น

1. ต้นมะตูมยักษ์อินเดีย
2. ต้นมะตูมไทย
3. ต้นมะตูมนิ่ม
4. ต้นมะตูมแขก หรือมะตูมซาอุ
5. ต้นมะขวิดมัน

รายละเอียดเพิ่มเติมต้นมะตูมอินเดียและมะตูมพันธุ์อื่นๆ ได้ที่>>> https://everysale.thaicentralgarden.com/

ติดต่อสั่งซื้อต้น มะตูมยักษ์ อินเดีย

ช่องทางการติดต่อ ท่านสามารถโทรหรือสอบถามทางไลน์และทางเฟสได้เลย

ติดต่อสอบถามที่ Call Center 0891710545,0923794398,
เวลา: (7.00 – 20.00)

Facebook: Thai Central Garden https://www.facebook.com/thaicentralgarden

Facebook : สุกัลยา เชียงดาว เฮิร์บ https://www.facebook.com/sukanya.dung

Line ID: @sukanyathaig

Line ID: manow98

แผนที่สวนไทยเซ็นทรัล สามพราน บ้านหอมเกร็ด พุทธมณฑลสาย6
แผนที่กูเกิ้ล https://goo.gl/maps/yaHMTAmCCqs

แผนที่สวนไทยเซ็นทรัล อู่ทอง “ศูนย์เพาะชำพันธุ์ไม้” สุพรรณบุรี https://goo.gl/maps/DovXKthKD6n

เอกสารอ้างอิง

• https://th.wikipedia.org/wiki/
• โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ  http://www.rspg.or.th