ชมพู่ มะเหมี่ยวขาว เนื้อหวานและมีกลิ่นหอม รสชาติอร่อยค่ะ
ชมพู่ มะเหมี่ยวขาว เป็นพันธุ์ชมพู่โบราณ ที่เด่นในด้านรสชาติที่มีกลิ่นหอมอร่อย ชวนให้อยากลองลิ้มชิมรส ซึ่งมีรสชาติอร่อยไม่แพ้ชมพู่เหมี่ยวและชมพู่สาแหรกเลยค่ะ อยากรับประทานลองหาซื้อต้นมาปลูกซิค่ะ
ชมพู่ มะเหมี่ยวขาว ชมพู่โบราณไม้ผลของไทย
ชมพู่มะเหมี่ยวขาวผลไม้ไทยที่หารับประทานยากสุดๆ ผลไม้สำหรับรับประทานกินเล่นยามว่าง ถ้าท่านใดเคยรับประทานผลสุกของชมพู่มะเหมี่ยวขาวมาบ้างแล้ว จะทราบถึงกลิ่นและรสชาติได้เป็นอย่างดี ชมพู่มะเหมี่ยวขาวนอกจากรสชาติอร่อยชวนกินแล้ว ยังมีประโยชน์และสรรพคณต่อร่างกายมากมาย ช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ รวมถึงการใช้เป็นของขวัญของฝากก็ดูมีคุณค่า ปลูกง่าย ขายคล่อง หากปลูกไว้เป็นอาชีพก็ไม่ผิดหวังแน่นอน
ชมพู่มะเหมี่ยวขาวต่างชมพู่สากกะเบืออย่างไร?
ชมพู่มะเหมี่ยวขาว รูปทรงของผล มีสีขาวคล้ายกับชมพู่สากกะเบือจนหลายๆคนเข้าใจผิด ซึ่งพันธุ์มะเหมี่ยวขาวจะมีลักษณะเด่นที่แตกต่าง คือ ผลจะสั้นกลมทรงหยดน้ำคล้ายผลแอปเปิลหรือทรงระฆัง อ้วนใหญ่กว่าสากกะเบือ ผิวเปลือกนอกเรียบ ซึ่งหากนำผลทั้งสองพันธุ์มาวางเทียบกันชมพู่สากกะเบือทรงของผลจะยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด มะเหมี่ยวขาวจะให้รสชาติที่หวานกรอบฟูและเนื้อชมพู่ฉ่ำน้ำมากกว่า ให้กลิ่นหอมน่ารับประทาน ส่วนพันธุ์ชมพู่สากกะเบือ รสชาติจะหวานอมเปรี้ยวเนื้อแข็งไม่ฟูเท่า ซึ่งหากได้กินแล้วจะให้รสชาติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน จัดว่าเป็นพันธุ์ชมพู่ที่ยังเป็นที่ต้องการสูงของผู้บริโภค ดังนั้นหากต้องการจะปลูกเพื่อไว้ทานหรือปลูกเพื่อเป็นอาชีพก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
ลักษณะทั่วไปของชมพู่มะเหมี่ยวขาว
มะเหมี่ยวขาว (Pommerac) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Syzygium malaccense เป็นไม้ยืนต้นสูงไม่เกิน10 เมตร เปลือกแข็งสีน้ำตาล มีกิ่งก้านมากมายและมักแตกเป็นพุ่มกลม ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ออกตรงข้ามกัน มีขอบขนาน รูปใบหอก มียอดอ่อนไม่เหมือนชมพู่มะเหมี่ยวพันธุ์อื่น คือถ้าเป็นพันธุ์อื่นๆยอดจะเป็นสีน้ำตาล ส่วนมะเหมี่ยวขาวยอดจะเป็นสีเขียวอ่อน ดอกจะออกตามซอกใบมีกลิ่นหอม สีชมพู มีผลสั้น อ้วนกลมใหญ่สีขาว ปลายผลทรงคล้ายหยดน้ำ มีเมล็ดขนาดเล็ก 1-3 เมล็ด มีรสชาติหวานกรอบ เนื้อฟูมีกลิ่นหอม น้ำหนักดีมาก 3-4 ผลหนัก 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว มีถิ่นกำเนิดและนิยมปลูกดั้งเดิมอยู่ที่นนทบุรีและ ตลิ่งชัน บางกอกน้อย บางลำภู กรุงเทพมหานคร เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้ขยายต้นพันธุ์และกระจายปลูกในทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย
ประโยชน์ของ ชมพู่ มะเหมี่ยวขาว
มะเหมี่ยวขาวเป็นผลไม้ที่ให้สารอาหารหลายชนิดเช่น วิตามินเอ ซี อีก วิตามินบี 2 3 1 ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ให้แร่ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส กรดโฟลิก ไลโคปีน ให้เส้นใยอาหารมากมาย เหมาะที่ทานเป็นของว่าง เป็นของขวัญของฝาก หรือปลูกเป็นอาชีพก็ได้ค่ะ บางตำราบอกว่าชมพู่พันธ์นี้จะช่วยรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วย เช่น แก้หวัด แก้ไข้ ช่วยไม่ให้เลือดออกตามไรฟัน บำรุงผิวพรรณ บำรุงกระดูก บำรุงหัวใจ ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย
การขยายพันธุ์ ชมพู่มะเหมี่ยวขาว
ใช้วิธีเพาะเมล็ดหรือ ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด ติดตา ซึ่งมีหลายวิธีแล้วแต่ความสะดวกหรือความเหมาะสมของท่านที่ขยายต้นพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เพราะให้สายพันธุ์แท้ ไม่กลายพันธุ์ โตง่าย ให้ผลผลิตไว
วิธีการปลูก การเตรียมดิน
ชมพู่มะเหมี่ยวพันธ์นี้ชอบแดด ชอบอากาศร้อนควรมีระยะห่างระหว่างต้น 6×6 เมตร ก่อนนำกิ่งชำลงหลุมให้ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมเสียก่อน จากนั้นให้นำกิ่งชำลงดิน กลบดินให้แน่น ควรมีไม้ค้ำลำต้นเพื่อกันการโค่นล้ม จากนั้นต้องรดน้ำให้ทั่วถึงและเพียงพอ เช้าและเย็น เมื่อรากชมพู่เริ่มแข็งแรงและตั้งตัวได้แล้วก็สามารถเว้นบ้างก็ได้ โดยความเหมาะสมให้ดูจากความต้องการของต้นชมพู่ในแต่ละพื้นที่นั้นๆ
การดูแลรักษาชมพู่มะเหมี่ยวขาว
เมื่อชมพู่ออกดอกแล้ว มักให้ดอกมาก ผู้ปลูกควรคัดดอกที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด ไม่ให้มีมากจนเกินไป เพราะดอกที่เหลือจะได้ให้ผลที่โตสมบูรณ์ได้ดีต่อไป เมื่อเกสรร่วงจากดอกแล้ว ระยะนี้ผู้ปลูกควรจะต้องห่อดอกที่คัดไว้ด้วยถุงพลาสติก เพื่อป้องกันแมลงและเพื่อให้ผิวของชมพู่สวยงามน่าทาน เมื่อผลโตเต็มที่แล้วจะมีสีขาว ระยะนี้ควรรดการให้น้ำก่อนการเก็บผลประมาณ 1 สัปดาห์
การให้ผลผลิต
การปลูกด้วยกิ่งตอนจะให้ผลผลิตเมื่อชมพู่มีอายุประมาณ 3-5 ปี และจะให้ดอกติดผลตลอดทั้งปีและให้ผลดกมากอีกด้วย และหากต้องการให้ผลผลิตมีรสชาติหวานหอมอร่อยมาก ไม่มีรสเปรี้ยวหรือฝาดเจือปน วางขายแล้วได้ราคา ตามตำราของคนโบราณก็ควร ปล่อยให้ผลติดต้นจนกระทั่งผลโตแก่จัด เมื่อเดินเข้าใกล้ต้น จะมีกลิ่นหอมโชยออกมาเสียก่อนจึงเก็บผลลงมารับประทานได้ ผลที่เก็บได้ควรวางไว้ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ใส่กล่องหรือแช่ตู้เย็นก็ได้ ผลโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 5-8 ขีดต่อผล นับว่าให้น้ำหนักดีมาก คุ้มค่ามากหากทำการปลูกเพื่อการค้า
แมลงและศัตรูพืชชมพู่มะเหมี่ยวขาว
ศัตรูตัวร้ายของชมพู่มะเหมี่ยวขาว มักเป็นพวกหนอน แมลงวันทอง ที่ชอบเจาะทำลายต้น และหนอนด้วงที่กัดกินใบ การดูแลทำได้ด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นในระยะที่ชมพู่เริ่มติดผล โดยฉีดพ่นไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี ซึ่งควรเป็นยาฆ่าแมลงที่มาจากพืชที่หมักแบบธรรมชาติจะดีกว่า เพื่อป้องกันการตกค้างของสารเคมีซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อผู้ปลูก ผู้บริโภค และไม่ควรฉีดพ่นในระยะใกล้เก็บผลชมพู่ เพราะอาจทำให้รสชาติของชมพู่ไม่อร่อย ขายไม่ได้ราคาอีกด้วย
ขายกิ่งพันธุ์ชมพู่มะเหมียวขาวและพันธุ์ชมพู่ต่างๆ
ท่านที่กำลังต้องการหาต้นชมพู่เพื่อปลูกไว้รับประทานหรือปลูกเพื่อการค้า ถ้าต้องการกิ่งพันธุ์ชมพู่ตรงสายพันธุ์และไม่ผิดเพี้ยนสายพันธุ์ แวะเวียนมาสั่งต้นพันธุ์ชมพู่ของสวน ThaiG ได้นะค่ะ เรามีกิ่งพันธุ์ชมพู่หลายสายพันธุ์ ไว้บริการให้เกษตรกรทุกๆท่านได้นำไปปลูกกันค่ะ เช่น
- กิ่งพันธุ์ชมพู่มะเหมี่ยวขาว
- กิ่งพันธุ์ชมพู่มะเหมี่ยว
- กิ่งพันธุ์ชมพู่สาแหรก
- กิ่งพันธุ์ชมพู่น้ำดอกไม้
- กิ่งพันธุ์ชมพู่เขียวอำพัน
- กิ่งพันธุ์ชมพู่เพชรสามพราน
- กิ่งพันธุ์ชมพู่เพชรสายรุ้ง
- กิ่งพันธุ์ชมพู่พลาสติก(สีขาว)
- กิ่งพันธุ์ชมพู่พลาสติก(สีแดง)
- กิ่งพันธุ์ชมพู่ทับทิมจันทร์
- กิ่งพันธุ์ชมพู่ยักษ์ไต้หวัน
- กิ่งพันธุ์ชมพู่สตอเบอรี่
ถ้าสนใจปลูกไม้ผลต่างๆ ท่านสามารถเข้าไปดูกิ่งพันธุ์ไม้ผลของสวน ThaiG สามพราน ได้ที่ ลิ้งค์ด้านล่างนี้ >>
สั่งซื้อกิ่งพันธุ์ชมพู่มะเหมี่ยวขาวและชมพู่พันธุ์อื่นๆ
ติดต่อสอบถามที่ Call Center 0891710545,0923794398,
เวลา: (7.00 – 20.00)
Facebook: Thai Central Garden
Line ID: manow98
Line ID: @sukanyathaig
แผนที่สวนไทยเซ็นทรัล สามพราน บ้านหอมเกร็ด พุทธมณฑลสาย6
แผนที่กูเกิ้ล https://goo.gl/maps/yaHMTAmCCqs
แผนที่สวนไทยเซ็นทรัล อู่ทอง “ศูนย์เพาะชำพันธุ์ไม้” สุพรรณบุรี https://goo.gl/maps/DovXKthKD6n