ไพล

฿100.00

รหัสสินค้า: 65 หมวดหมู่:

คำอธิบาย

ไพล ,ไพล ขายไพล ไพลแดง ขายต้นไพล ขายหัวไพลแดง,
 
ชื่อสินค้า ไพล
รหัสสินค้า 031
รายละเอียด ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zingiber cassumunar Roxb.

ชื่ออื่น : ไพล มีชื่อท้องถิ่นต่าง ๆ กันไป เช่น ภาคเหนือเรียก “ปูเลย” ภาคกลางเรียก “ไพล” หรือ “ว่านไฟ” แม่ฮ่องสอนเรียก “มิ้นสะล่าง”อีสานเรียก “ไพล”

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไพลเป็นไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน ลงหัวเป็นแง่งติดต่อกัน เป็นพืดเหมือนจำพวกว่านหรือขิง สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ไพลเจริญงอกงามใน ฤดูฝน ต้นโทรมในฤดูหนาวทุกปีเป็นไม้ลงหัว มีเหง้าขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน เนื้อในเหง้าสีเหลือง มีกลิ่นหอมร้อนเฉพาะตัว บางคนว่าหอม บางคนว่าเหม็น ใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ดอกเป็นช่อ ลักษณะเป็นแท่งกลมยาวปลายแหลมออกจาก เหง้าใต้ดิน ดอกเป็นเกล็ดซ้อนทับกันเป็นปุ่มคล้าย ลูกตุ้มถ่วงนาฬิกา โตกลม ปลายแหลม คล้ายลูกมะกอก มีดอกเล็กๆ แซงออกตามเกล็ด ดอกมีความสวยงามเช่นเดียวกับดอกขิง หรือดอกกะทือ

การขยายพันธุ์ : ไพลสามารถขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด แง่งหรือเหง้าซึ่งเป็นส่วนของลำต้นใต้ดิน โดยทั่วๆ ไปจะใช้ส่วนของเหง้าเป็นท่อนพันธุ์ในการปลูก ไพลชอบดินร่วนซุย ไม่ชอบน้ำขังหรือดินที่มีการระบายน้ำไม่ดีเนื่องจากจะเน่าเสียโดยเฉพาะดิน ที่มีสภาพเป็นกรด เมื่อมีฝนชุกหรือความชื้นในดินสูง จะทำให้เกิดโรคแง่งเน่า สามารถปลูกกลางแจ้งจนถึงมีแสงแดดพอควร ส่วนต้นเหนือดินมักจะยุบหรือแห้งเมื่อเข้าฤดูแล้ง

การปลูกโดยใช้เหง้าสามารถทำได้ 3 วิธี คือ :

1. ปลูกโดยใช้เหง้า ตัดเป็นท่อน ๆ ชุบด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา ทิ้งไว้สักครู่ แล้วทำการปลูกลงในแปลงที่เตรียมไว้(ดิน แกลบดิบ ทรายหยาบ ผสมดินให้เข้ากัน ทรายหยาบจะทำให้ดินร่วนระบายน้ำได้ดีและเมื่อถึงเวลาขุดจะทำให้ขุดง่ายและ ล้างดินออกได้ง่าย)
2. ปลูกโดยใช้เหง้าเพาะให้งอกก่อน โดยทำการเพาะเหง้าที่ตัดเป็นท่อน ๆ ในกระบะทราย ให้แทงยอด แตกใบประมาณ 2-3 ใบ จึงย้ายลงปลูกในแปลงปลูก
3.แยกกอ

การเก็บเกี่ยว :

– ระยะเก็บเกี่ยว ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงวันที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไพล จะใช้ระยะเวลานาน 2-3 ปี เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะจะทำให้ได้น้ำมัน ไพล ที่มีปริมาณและคุณภาพสูง

– วิธีการเก็บเกี่ยว ใช้จอบ เสียมขุดเหง้าไพลขึ้นมาจากดิน (ต้องระวังไม่ให้เกิดแผลหรือรอยช้ำกับเหง้า) เขย่าดินออก ตัดรากแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง

– การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว เก็บหัวไพลที่ตัดราก และผึ่งลมให้แห้งแล้ว เก็บบรรจุกระสอบพร้อมที่จะนำไปสกัดน้ำมัน โดยเครื่องกลั่นไอน้ำ สำหรับไพลที่จะนำไปผลิตเป็นลูกประคบแห้ง ให้คัดเลือกส่วนที่สมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลง มาล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง จากนั้น นำสมุนไพรมาทำให้แห้ง โดยหั่นเหง้าไพลเป็นชิ้นบาง ๆ วางบนถาดหรือกระด้ง เกลี่ยให้บาง คลุมด้วยผ้าขาวบางเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการปลิวนำไปตากแดดให้แห้ง หมั่นกลับบ่อย ๆ หรือโดยการอที่อุณหภูมิ 50 C สำหรับ 8 ชั่วโมงแรก แล้วลดอุณหภูมิลงเป็น 40-45 C หมั่นกลับบ่อย ๆ จนแห้ง โดยการใช้เหง้า ชอบดินเหนียวปนทราย แสงแดดพอควร มีความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ

การใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืช : บดไพลแห้งให้ละเอียด แล้วละลายในแอลกอฮอล์ในอัตราส่วนร้อยละ 15 โดยน้ำหนักแล้วนำไปฉีดพ่น หรือนำไปใช้หมักเช่นเดียวกับการใช้สมุนไพรขมิ้น สรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราสาเหตุโรคพืช

สรรพคุณยาไทย : ใช้ได้ทั้งเป็นยาภายในและยาภายนอก มีฤทธิ์แก้บิด ขับลม แก้หอบหืด ทำยาทาภายนอก หรือผสมในลูกประคบ แก้ปวดเมื่อย ทาแผล ใส่ในหม้อต้มน้ำสมุนไพร ใช้อาบ อบ ประคบได้ เหง้าไพลใช้เป็นยารักษาอาการเคล็ดขัดยอก ปวดเมื่อย ฟกช้ำ

วิธีใช้ :
เหง้าไพลสด ตำคั้นน้ำทาบริเวณที่ปวดเมื่อย ขัดยอก
เหง้าไพลสด ตำละเอียดผสมเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วนำมาห่อผ้าทำเป็นลูกประคบ อังไอน้ำให้ความร้อน ประคบบริเวณที่ปวดเมื่อย เช้า-เย็น จนกว่าจะหาย
ทำเป็นน้ำมันไพล โดยเอาไพลสด 2 กก. ทอดในน้ำมันพืชร้อนๆประมาณ 10 นาที กรอง รอจน น้ำมันอุ่นๆ จึงใส่ การบูรลงไป 4 ช้อนชา เทใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท รอจนเย็นจึงเขย่าการบูรให้ละลาย ได้เป็นน้ำมันไพล ใช้ทาถูนวดเมื่อปวดเมื่อย วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ :
เหง้าไพลที่ใช้เป็นยาควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี จะมีน้ำมันหอมระเหยประมาณ 0.8 % ซึ่งมีองค์ประกอบ หลักเป็นสารกลุ่ม terpenoid และ phenylbutanoid เช่น a-pinene , sabinene, a-terpinene, terpinen-4-o1 เป็นต้น และมีสารสีเหลือง ชื่อ curcumin

เป็นยาลดการอักเสบ แก้เคล็ด ขัดยอก แก้ปวด โดยทำการศึกษาทางด้านเภสัชวิทยาของ น้ำมันไพล พบว่า มีผลลดการอักเสบได้ และทำการศึกษาทางคลินิกพบว่า ครีมไพลสามารถรักษาอาการ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดบวมจากกล้ามเนื้อ อักเสบ เคล็ดขัดยอก และฟกช้ำ และนอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำคั้นจากเหง้าไพลมีฤทธิ์ ทำให้ปลายประสาทชา จึงทำให้ลดอาการปวดเมื่อยได้ จากการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่ามีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้หอบหืด คลายกล้ามเนื้อ ต้านการเต้นของ หัวใจที่ผิดปกติ ฆ่าเชื้ออสุจิ ไล่แมลง เป็นยาชาเฉพาะที่ ต้านการฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูก และต้านเชื้อ แบคทีเรีย ไพลนอกจากจะใช้เป็นยาถูนวดแก้ปวดเมื่อยเคล็ดยอกแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกเช่น

เป็นยากันยุง โดยใช้น้ำมันไพล ซึ่งจะต่างกับน้ำมันหอมระเหยอื่น ๆ ตรงที่เมื่อถูกกับผิวหนัง แล้วจะไม่ รู้สึกร้อน เมื่อทา ผิวหนังจะป้องกันยุงได้ หรือใช้ผงเหง้าไพลแช่ในแอลกอฮอล์ 95 % 12-48 ชั่วโมง กรอง แล้วนำไปทำให้ เข้มข้นประมาณ 30 % ทาตามแขนขา ป้องกันยุงกัดได้นานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือใช้ขี้ผึ้งไพล ความเข้มข้น 30 % จะป้องกันยุงกัดได้นานถึง 3 ชั่วโมง (ทดลองกับยุงลายและยุงรำคาญ)

เป็นยาทาแผลพุพอง หนองฝี หรือโรคผิวหนังบางชนิดได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านจุลชีพได้ หลายชนิด เช่น ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองฝี ต้านเชื้อราบางชนิด ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้