การทำน้ำหมักชีวภาพ เเละทำน้ำเอ็นไซม์

การทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อทำน้ำเอ็นไซม์

ขบวนกรรมวิธีการทำน้ำหมักชีภาพเพื่อทำน้ำเอ็นไซม์มีวิธีทีไม่สลับซับซ้อน อะไรมากมายหรอกครับ รวมทั้งการ ขยายน้ำหมักชีวภาพที่ขยายเพื่อใส่น้ำผึ้งด้วย

ผลไม้สำหรับทำหมักชีวภาพ

การที่เราจะทำน้ำหมักนั้น ลำดับแรกเลยก็คือ การหาสิ่งที่เราต้องการที่จะนำมาหมักก่อนครับ แต่สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำสิ่งที่จะนำมาทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อที่จะได้เป็นน้ำเอ็นไซม์ นั้นก็มีอยู่ด้วยกัน 6 ชนิดก่อน คือ

1, สมอ

2,ลูกยอ

3,มะขามป้อม

4,บอระเพ็ด

5,ลิ้นจี่ ถ้าเป็นลิ้นจี่ ขอเป็นพันธุ์จักรพรรดิ์ จะดีที่สุด

6,ลำใย ถ้าเป็นลำใยต้องเป็นพันธุ์พวงทองครับ

เมื่อเราได้หาผลไม้หรือสิ่งที่เราจะนำมาหมักเป็นนำชีวภาพ หรือว่าน้ำเอ็นไซม์ แล้ว ต่อไปเราก็มาเรียนรู้เรื่อง สูตรการหมักกันดีกว่า

สูตรการหมักน้ำชีวภาพ เป็นน้ำเอ็นไซม์มีดังนี้

1,ผลไม้ที่เราจะหมัก 3 กิโลกรัม + น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม + น้ำเปล่าไม่มีคลอรีน 5 ลิตร

2,นำน้ำเปล่าที่ไม่มีคลอรีน เทลงในถังพลาสติกที่มีฝาปิด

3,นำน้ำตาลสีรำ เทใส่ตามลงไปในถังที่มีน้ำอยู่ และคนให้น้ำตาลละลายให้หมด ถ้าหาน้ำตาลสีรำไม่ได้ก็ใช้น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายขาวก็ได้ แต่ผมใช้น้ำตาลสีรำดีกว่า เพราะมีกลิ่นหอมมาก ซึ่งทำให้น้ำหมักเราหอมไปด้วยครับ แล้วก็ไม่ต้องผ่านขบวนการทางเคมีฟอกให้ขาวอีกต่างหากครับ

4,นำผลไม้หรือสิ่งที่เราจะหมัก ใส่ลงไปในถัง กดทับให้จมน้ำ แล้วปิดฝาถัง แค่นี้ก็เป็นอันว่าเสร็จพิธีรีตองในการทำน้ำหมักชีวภาพ

 

น้ำเอ็นไซม์ น้ำหมักพลอยเพชร

น้ำหมักพลอยเพชร

การทำน้ำหมักชีวภาพ

หลังจากที่เราหมักแล้วช่วงระยะแรกๆ ให้คอยคนถังทุกๆ วัน เพื่อที่ผลไม้หรือสิ่งที่เราหมักไปนั้น จะได้ไม่ลอย ไม่เน่าเสีย (ต้องคนทุกวัน) ยิ่งทำเช้าเย็นได้ยิ่งดี จนกว่าจะเข้าที่ดี หรือเรียกง่ายๆว่า มันไม่ลอยขึ้นมาแล้ว คือมันจมนะ หลังจากที่คุณหมักไปสักไม่กี่เดือน ถ้าคุณเห็นเป็นฝ้าขึ้น ห้ามตักฝ้านั้นทิ้งเเด็ดขาด เพราะนั่นเขากำลังเป็นวุ้น และวุ้นน้ำหมักที่เกิดจากจากการหมักน้ำชีวภาพเพื่อเป็นน้ำเอ็นไซม์ นี้ มีคุณค่าและมีราคามาก

วุ้นน้ำหมักเพชรพลอย

สรรพคุณและประโยชน์ของวุ้นน้ำหมักชีวภาพ

ถ้าผู้ชายเอาวุ้นน้ำหมักนี้ไปทำน้ำปั้นกิน ใอ้ยายี่ห้อปู่เซิน สู้ไม่ได้เลยหล่ะ แข็งดึ๋งดั๋งทั้งคืน เราบอกได้เลยว่า มันสุดยอด เมื่อท่านหมักได้ 1 ปีก็จะเป็นน้ำเอ็นไซม์ ยิ่งถ้าหมักนาน ยิ่งดีครับ มันจะเป็นน้ำเอ็นไซม์ที่สุดยอดจริงๆ

อัตราส่วนในการขยายน้ำหมัก

น้ำตาลสีรำ (น้ำผึ้ง) 1 ส่วน

น้ำผลไม้ที่หมักแล้ว 5 ส่วน

น้ำบริสุทธิ์ไม่มีคลอรีน 5 ส่วน

วิธีขยายน้ำหมัก (โดยไม่ต้องซื้อผลไม้เพิ่ม) สูตร 1:5:5

1. นำน้ำหมักผลไม้หรือเศษผัก ที่อายุครบ 6เดือนขึ้นไป แยกผลไม้ออกเอาแต่น้ำหมัก เช่นแยกได้ 50 ลิตรเฉพาะน้ำหมักที่ได้

2. ใส่น้ำบริสุทธิ์ไม่มีคลอรีนเข้าไปแทนใหม่ 50 ลิตร

3. เติมน้ำสีรำ 10กิโลกรัม แล้วหมักโดยไม่ต้องคน ปิดฝาให้แน่น ต่อไปอีก 6 เดือนขึ้นไปจนครบ 1ปี ก็นำมาทานได้

หากยังต้องการขยายต่อ ก็ทำเหมือนเดิม คือ แยกน้ำหมักได้เ่ท่าไร ก็เติมน้ำกรองไปเท่านั้น

แล้วเติมน้ำตาลสีรำ หรือให้ดีหน่อยก็เติมน้ำผึ้งแทน สูตร 1:5:5 ปิดฝาแน่นไปอีก 1 ปี

ยิ่งหมักนานเป็น 10 ปียิ่งดี หากต้องการขยายต่อก็ทำไปเรื่อย ๆ

ส่วนกากผลไม้   ที่เหลือจากการนำน้ำหมักออกไปทำการขยายก็สามารถนำมาหมักขยายต่อได้อีกส่วน แต่คราวนี้มีเนื้อกากผลไม้ก็ใช้สูตรเดิมคือ 1:3:5 คือ น้ำตาลทราย 1 ส่วน กากผลไม้ 3 ส่วน

น้ำบริสุทธิ์ 5 ส่วน หมักไปจนครบ 1 ปี ขยายต่อไปได้เรื่อย ๆ จนกากเป็นผงนำมากวนผสมน้ำผึ้งได้อีก

เอาหล่ะ วันนี้แค่นี้ก่อน วันหน้าว่างๆจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ ไปทำตามที่เราแนะนำนั่นแหละ แต่ใครจะเชื่อก็เชื่อนะ ถ้าไม่เชื่อก็คิดเสียว่า ผมไม่ได้มาเล่าให้ฟังก็แล้วกันครับ

เรื่องเล่าโดย บุญชู  เกิดโภคา

2 thoughts on “การทำน้ำหมักชีวภาพ เเละทำน้ำเอ็นไซม์

    • มีค่ะ น้ำหมักชีวภาพมีขายตามร้านขายปุ๋ยหรือตามเว็บไซต์อ่ะ หรือจะนำสูตรของเราไปหมักเองก็ได้นะค่ะ

แสดงความเห็น